6 รูปแบบของ Health Startup
แน่นอนว่ายุคหลังโควิด Health and Wellness กำลังเป็น Trends และเมื่อบวก Trends ของกระแสเปลี่ยนแปลงโลกด้วยธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ด้วยความฝัน ผลักดันด้วยการ scale แล้วละก็ ไม่มีทางพ้น startup ที่จะ มาเล่า ให้ฟัง ว่าหลักๆ มีอะไรบ้างเผื่อใครสนใจ area ไหนจะได้ไหลให้ถูกทาง
Startup สายสุขภาพ 6 ประเภทหลักที่แบ่งตามที่มา และวัตถุประสงค์:
1. Life style startup (สตาร์ทอัพด้านไลฟ์สไตล์): สตาร์ทอัพเหล่านี้มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ของคน พวกเขาตอบสนองผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น fitness app. Health coach app. Excercise app. etc
2. Small Business Startups (สตาร์ทอัพจากธุรกิจขนาดเล็ก): บาง startup เริ่มจาก ธุรกิจขนาดเล็กหรือ SME โดยทั่วไปแล้วสตาร์ทอัพเหล่านี้จะดำเนินงานแบบการให้บริการเฉพาะด้านขนาดเล็กก่อน แล้วมีการปรับรูปแบบธุรกิจไปนำเสนอบริการด้านสุขภาพเฉพาะทาง ตัวอย่าง ได้แก่ คลินิกเอกชน ร้านขายยาอิสระ หรือหน่วยงานด้านการดูแลสุขภาพที่บ้านที่ให้บริการชุมชนเฉพาะ และมาในรูปแบบ francise ระบบ platform บริหารคลินิกหรือร้านยา
3. Scalable Startups (สตาร์ทอัพที่เติบโต): Scalable Startups มีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วและขยายการดำเนินงานออกไปอย่างไร้ขอบเขต พวกเขามักจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อนำเสนอโซลูชันที่ขยายขนาดได้ซึ่งสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้นได้ แพลตฟอร์ม Telemedicine แอปพลิเคชันสุขภาพดิจิทัล หรือRemote monitoring เป็นต้น
4. Buyable startup สตาร์อัพที่ปั้นไว้เพื่อขาย เป็น model ที่ดูจะเป็น win win situation และปิดความเสี่ยง เมื่อstartup ตัวเล็กที่สร้างขึ้น ปั้นเพื่อยักษ์ใหญ่ เข้าร่วมหรือซื้อกิจการ "ปั้นเพื่อขาย" คือจุดหมายสุดท้าย เพราะนอกจากจะได้เงินจำนวนมหาศาลแล้ว ยังเป็นการสร้างความยั่งยืนของบริษัทหรือผบิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นด้วย
product ได้ถูกสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้บริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพเหล่านี้มุ่งเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม ทรัพย์สินทางปัญญา หรือโซลูชันที่สามารถเสริมพอร์ตโฟลิโอที่มีอยู่ของผู้ซื้อหรือเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน
5. Large comoany startup สตาร์ทอัพของบริษัทขนาดใหญ่: สตาร์ทอัพของบริษัทขนาดใหญ่หมายถึง การสร้างสตาร์ทอัพที่จุดประกายไอเดียใหม่ เพื่อเป็นยานลูกส่งไปสำรวจน่านฟ้าใหม่ๆ แทนยานแม่ที่มั่นคงแต่เทอะทะ พวกเขาอาจสร้างหน่วยงานหรือแผนกแยกต่างหากภายในองค์กรเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและสำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
6. Social startup (สตาร์ทอัพเพื่อสังคม): สตาร์ทอัพเพื่อสังคมขับเคลื่อนด้วยพันธกิจในการแก้ไขปัญหาสังคมหรือปรับปรุงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลสำหรับประชากรที่ด้อยโอกาส พวกเขาให้ความสำคัญกับผลกระทบทางสังคมมากกว่าความสามารถในการทำกำไร และอาจมุ่งเน้นไปที่ด้านต่างๆ เช่น การให้บริการด้านสุขภาพในพื้นที่ห่างไกลการปรับปรุงการศึกษาด้านการดูแลสุขภาพ หรือการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีต้นทุนต่ำสำหรับภูมิภาคที่มีทรัพยากรจำกัด
นี่คือ 6 startup ทางการแพทย์ ที่พร้อมเปลี่ยนโลก ก่อนโลกจะเปลี่ยนเรา