สร้าง Brand ที่ไม่มี Brand : การตลาดยุคใหม่ ตอบโจทย์คนต้องการความง่ายและชัดเจน

Added on by Surattanprawate.

No Brand: ยักษ์เกาหลีที่แอบชิงส่วนแบ่งตลาดด้วยคุณภาพและราคา!

ในโลกที่แบรนด์เต็มไปหมด "No Brand" ดูเหมือนคำขัดแย้ง งง ๆ แต่ในเกาหลี No Brand กำลังมาเงียบ ๆ พิสูจน์ว่าบางที การไม่มีโลโก้กลับเป็นจุดขายแรงสุดก็ได้

เกิดในปี 2015 ใต้ร่มปีก E-Mart ยักษ์ค้าปลีก No Brand เข้าตลาดที่แบรนด์ดังครองเมือง กลยุทธ์? ตัดนู่นแต่งนี่เรื่องการตลาดออก โฟกัสแค่คุณภาพกับราคา สินค้าเรียบ ๆ แพคเกจธรรมดา ไม่หรู ไม่ดารา แต่ราคาถูกกว่าเป็นบ้า!

ผลตอบรับดีเกินคาด คนเกาหลีชอบของถูก No Brand ขายดี! ตอนนี้พุ่งเกิน 800 อย่าง ตั้งแต่ผักสด ขนม ไปยันแพมเปอร์ น้ำยาล้างจาน คุณภาพเกินคาด หลายอย่างผลิตจากโรงงานเดียวกับแบรนด์ดัง แค่เปลี่ยนแพคเกจ

ทำไม No Brand ปัง?

  • คุ้ม! สินค้า No Brand ถูกกว่าแบรนด์ดังเฉลี่ย 20-30%

  • ดีจริง! E-Mart คุมคุณภาพเข้มงวด สินค้า No Brand ปลอดภัย ไร้กังวล

  • แปลกใหม่! No Brand ไม่กลัวลอง มีทั้งออร์แกนิค ปลอดกลูเตน และของพิเศษตามฤดู ตามภูมิภาค

  • ใสสะอาด! ฉลากชัดเจน บอกแหล่งผลิต สร้างความไว้ใจให้ลูกค้า

No Brand ส่งผลไกลกว่าแค่ชั้นวางตัวเอง ทำให้ร้านค้าปลีกเกาหลีแห่ทำ "แบบ No Brand" บังคับแบรนด์ดังต้องปรับตัวเรื่องราคาและคุณภาพ ผู้บริโภคไม่มองแบรนด์อย่างเดียวอีกแล้ว ต้องการของคุ้ม คุ้ม คุ้ม!

แต่ No Brand ไม่หยุดแค่ถูก! กำลังขึ้นเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เปิดร้านเฉพาะอย่างร้านเรือธง Sinchon ที่คัดของเด็ด พร้อมประสบการณ์สนุก ๆ จับมือดีไซน์เนอร์ ศิลปิน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เกาหลี

อนาคต No Brand สดใส พิสูจน์ว่าไม่มีโลโก้ก็เป็นแบรนด์ทรงพลังได้ ด้วยคุณภาพ ราคา และความไว้ใจ No Brand เปลี่ยนโฉมวงการค้าปลีกเกาหลี อาจจะถึงโลกเราเร็ว ๆ นี้!

  • No Brand ฮิตเพราะคนอยากของคุ้ม คุ้ม คุ้ม! ไม่อยากจ่ายแพง

  • แบรนด์เองของร้านดังไม่ใช่แค่ของถูก คุณภาพก็ดีได้

  • แบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้ ต้องสร้างความไว้ใจ ตอบโจทย์ลูกค้า

  • No Brand สอนว่า ต้องปรับตัว เรียนรู้ตลอด อยู่ไหนก็ประสบความสำเร็จได้

การเปรียบเทียบกับ Muji

No Brand และ Muji เป็นแบรนด์ที่คล้ายคลึงกันในแง่ของความเรียบง่าย คุณภาพ และราคาที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ทั้งสองแบรนด์ก็มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ ดังนี้

  • ความแตกต่างด้านโลโก้: No Brand โดดเด่นด้วยการไม่มีโลโก้ ในขณะที่ Muji เป็นที่รู้จักจากโลโก้วงกลมสีขาวดำ

  • ความแตกต่างด้านสินค้า: No Brand จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ในขณะที่ Muji เน้นไปที่สินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อผ้า ของใช้ภายในบ้าน และอุปกรณ์เครื่องเขียน

  • ความแตกต่างด้านกลุ่มเป้าหมาย:No Brand มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภคทั่วไปที่มองหาสินค้าคุณภาพดีในราคาประหยัด ในขณะที่ Muji มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบและความยั่งยืน

การตลาด เพื่อตอบสนองกลุ่มทึ่ต้องการใช้ของที่มีคุณภาพ ไม่ติด Brand มันก็กลายเป็น Brand ได้แบบนี้นี่เอง