หลาย ๆ คน ก็คงจะทราบข่าว Elon Musk ประกาศผู้ที่จะได้ท่องอวกาศไปกับ Space X ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเขาคนนั้นก็คือ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐีพันล้าน ชาวญี่ปุ่น Yusaku Maezawa วัย 42 ปี
และ Yusaku Maezawa และ Elon Musk ก็มีแผนในการชักชวน ศิลปิน ดารา ผู้มีชื่อเสียงอีกหลายคน ร่วมทริปเกิดทานครั้งประวัติศาสตร์นี้ด้วย
แม้ว่า เราก็ยังทราบถึง deal ในการท่องอวกาศครั้งนี้ แต่หลาย ๆ คนคงตั้งคำถามในใจว่า จะต้องจ่ายเงินมหาศาล เพื่อไปท่องอวกาศเลยหรือ และบางคนถึงกับเปรียบเทียบว่า ก็ไปนั่งยานอวกาศในสวนสนุกก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินมากมายหรอก
แต่ในความเป็นจริง การท่องอวกาศ ได้ออกไปสัมผัสมุมมองนอกโลก ที่ปกติ เรามีแต่โอกาสในการมองไปบนท้องฟ้าเท่านั้น มันมากกว่า การไปท่องเที่ยงธรรมดา แต่มันคือการเปลี่ยนแปลง ชีวิต ทัศนคติและมุมมองต่อชีวอตเลยทีเดียว
หลายปีก่อน ผมเคยไปร้านหนังสือมือสองร้านหนึ่ง และก็เห็นหนังสือมือสองในกองหนังสือลดราคา เรื่อง “Orbital perspective” ซึ่งเป็นหนังสื่อที่กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงชีวิตและความรู้สึก เมื่อครั้งที่ผู้แต่ง ได้เป็นนักบินอวกาศ และกล่าวถึงปรัชญาการใช้ชีวิตที่เกิดขึ้น เมื่อเค้าได้มองมายังโลก และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญส่วนบุคคล แต่มันเป็นการปรับทัศนคติของสมองผ่านการมองมายังโลกอย่างแท้จริงที่เรียกว่า “the Overview effect”
“The overview effect” หรือ “ผลกระทบจากการมองภาพรวม” คือการเปลี่ยนแปลงทางความคิดที่ส่งผลกระทบต่อนักบินอวกาศหลายคนที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นโลกจากอวกาศ พวกเขากล่าวว่าความคิดแห่งการเปลี่ยนแปลงเมื่อมองมายังโลกคือการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ หรือ วัฒนธรรมมันสูญสลายไป และมันเหมือนกับตัวตนของเขาและทุก ๆ คนมีความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน และเขายังบอกอีกว่า เมื่อมองมายังโลกด้วยสายตาที่อยู่นอกโลก โลกมันเหมือนลูกบอลลูกเล็ก ๆ ที่มีแสงบาง ๆ ห่อหุ้มหล่อเลี่ยงด้วยบรรยากาศที่บางเฉียบ
การปราศจากเขตแดนทางกายภาพ หรือเส้นแบ่งของประเทศได้หายไป ความขัดแย้งที่แบ่งแยกดินแดนวัฒนธรรมและประชาชนกลายเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญและมีความเข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างคนและสังคมโลกที่สันติ ที่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องลูกบอลสีน้ำเงินสีซีดนี้
“ฉันทราบว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึก การรับรู้ ทัศนะคติ ที่ต่างจากความเข้าใจของจักรวาลที่ฉันได้เรียนรู้มา เมื่อมองออกไป ฉันรู้สึกว่า ตัวของฉันเชื่อมโยงกับความเป็นไปของจักรวาลเหมือนมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฉันตระหนักว่านี่คือการตอบสนองของสมองที่กำลังจัดระเบียบใหม่ มันเป็นประสบการณ์ในความเปลี่ยนแปลงการรับรู้และตัวตนใหม่ และมันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป "- Edgar Mitchell, ชายรายที่ 6 ที่ไปดวงจันทร์
มันเป็นเรื่องปกติสำหรับนักบินอวกาศที่ ได้รับผลกระทบของ “Overview effect” จะมีส่วนร่วมในงานกุศลทั่วโลกหลังจากที่พวกเขากลับมายังโลก
นักบินอวกาศรอน Garan นักบินอวกาศของ NASA คนแรกที่เดินทางไปใน Space Shuttle Discovery ในปีพศ. 2551 และใช้เวลามากกว่า 128 วันรู้สึกถึงผลกระทบจากการเดินอวกาศครั้งที่สามของเขาและเริ่มสร้างกลุ่มคนใจบุญที่เรียกว่า "Fragile Oasis” ที่รวบรวมกลุ่มนักบินอวกาศที่เคยมีการเปลี่ยนแปลงทางปรัชญาที่คล้ายคลึงกัน
Garan เขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขากับผลภาพรวมเรื่อง Orbital Perspective หรือ มุมมองของโลกกลม และร่วมมือกับ Guy Reid เพื่อสร้างสารคดีชื่อ "Planetary" ซึ่งจะสำรวจปรากฏการณ์ของ “Overview effect” จากมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ นักนิเวศวิทยานักปรัชญาและพระสงฆ์ ทุกคนมีความเชื่อร่วมกันว่าโลกนี้เป็นโลกเดียวและพวกเรามีความเป็นหนึ่ง
Joanna Macy นักปรัชญาและนักนิเวศวิทยาที่ให้ความสำคัญใน "Planetary" กล่าวว่าคุณไม่จำเป็นต้องไปที่อวกาศเพื่อสัมผัสกับผลภาพรวมคุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักบินอวกาศ คุณสามารถรู้สึกได้โดยการศึกษาภาพของโลกจากอวกาศอย่างใกล้ชิด
“เมื่อคุณศึกษาภาพของแผ่นดินการใช้ชีวิตบนผืนโลก ... คุณจะรู้สึกประทับใจกับความงามและการดำเนินและริเริ่มของมัน คุณจะมีความสุขในการใช้ชีวิต และดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้อย่างมีความสุข ... ไปสู่ลมหายใจสุดท้าย "- Joanna Macy นักปรัชญาและนักนิเวศวิทยากล่าวไว้