หลากเหตุผลที่ทำให้การทำนวัตกรรมไม่ใช่เรื่องง่าย หลักฐานจากการสำรวจงานนวัตกรรม หรือ ทีม startup ที่มีการพัฒนา product พบว่ามีนวัตกรรมเพียง 10-20 % เท่านั้น ที่ไม่ล้มหายตายจากไป ส่วนหนึ่งที่การทำนวัตกรรมออกมาแล้วล้มเหลว คือ ทีม
นวัตกรรม ไม่ใช่สิ่งที่ทำคนเดียว เพราะกระบวนการของนวัตกรรมนั้น ไม่ใช่แค่การทำวิจัย ค้นหาสิ่งใหม่ ไม่ใช่แค่การโฆษณา และไม่ใช่แค่การที่มีเงินแล้วก็ผลิตของออกมา แต่กระบวนการนวัตกรรม อาศัยกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดด้วยองค์ความรู้ที่สดใหม่และนำออกสู่ให้คนใช้ได้ นั่นทำให้การทำนวัตกรรม ต้องการทีมงานที่มีหลาย skill set ที่จะทำให้สำเร็จ
4 skill set อยู่ในตัวของคนในทีม โดยเฉพาะทีมผู้ก่อตั้ง (founder) และผู้ก่อตั้งร่วม (co-founder) มีอะไรบ้างมาดูกัน
Hustler (Business) - นักธุรกิจ
เพราะ นวัตกรรม คือการผลิตผลงานให้คนใช้ และ ต้องการความยั่งยืน ดังนั้น องค์ประกอบของลักษณะที่สำคัญที่สุด คือ ความเก่งกาจของความเป็นผู้ประกอบการ Hustler หรือ นักธุรกิจ จะมีเป็นเรือธง นำทีมไปสู่จุดหมายได้ ผ่านจิตวิญญาณของผู้ป่วยกอบการ ซึ่งมีหน้าที่ วิเคราะห์ธุรกิจโดยรวม ดู position ของ product/service คอยติดต่อหาโอกาสทางธุรกิจ วิเคราะห์การเงินและการเติบโตของธุรกิจ นำเสนอและติดต่อธุรกิจต่างๆ หากเป็น startup ละก็ Hustler ก็มักเป็นคนที่ pitching นำบริษัทให้ก้าวหน้า ให้ได้
จากหนังสือ Hard Thing about and Things โดย Ben Horowitz นักลงทุนและนักธุรกิจที่ผ่านสังเวียนอันเอกอุจาก Silicon Valley ได้บรรยายความยากของกระบวนการทำธุรกิจไว้ว่า กระบวนการในความยากลำบาก ของการทำธุรกิจนั้น ก็เพราะมันไม่มีสูตรตายตัว และถ่ายทอดได้ยาก เราต้องเผชิญมันด้วยความกล้าหาญและมีจิตใจที่แน่วแน่ ในการพุ่งทะยานเท่านั้น ที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ และนั่นคือคุณสมบัติของผู้ประกอบการแบบ Hustler พึงมี
2. Hipster (Design) - นักออกแบบ
สินค้า หรือ กระบวนการที่เราประสบพบเจออยู่ทุกวัน ล้วนแล้วแต่ผ่านการออกแบบมาแล้วทั้งสิ้น และการออกแบบที่ดี ทั้งทางด้านรูปลักษณ์และประสบการณ์ จะทำให้เส้นทางในการครองหัวใจลูกค้ามีสูง
บทบาทของนักออกแบบในปัจจุบันมีความกว้างขวางมากขึ้น ได้แก่
UX/UI design : UX หรือ user experience เป็นการออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งาน โดยเริ่มจากมีการเก็บข้อมูลการเดินทางของลูกค้า (customer journey) สิ่งที่ต้องพบเจอและสัมผัสการใช้งาน (touch point) และส่งมอบความรู้สึก ประสบการณ์ที่ดี ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ในขณะที่ UI หรือ User Interface เป็นการออกแบบรูปลักษณ์ที่พบเจอ ความสวยงาม ความใช้งานที่ง่าย ให้แก่ลูกค้า
Branding : การทำแบรนด์ เป็นการสร้างมุมมอง และตัวตนของผลิตภัณฑ์ และ บริษัท โดยรวมของลูกค้า (และพนักงานใน บริษัทด้วย) ให้เกิดความรู้สึกผูกพันธ์อย่างยั่งยืน ผ่านการออกแบบคำพูด ตัวอักษร โลโก้ การถ่ายทอดสิ่งต่าง ๆ ไปในแนวทางเดียวกัน โดยการทำ Branding จะเป็นไปในทิศทางความรู้สึกที่เป็นนามธรรม แต่จะติดคงอยู่อย่างยาวนาน
Marketing : การออกแบบยังต้องทำงานร่วมกับการทำการตลาด เพื่อการสื่อสารให้เป็นในทิศทางเดียวกัน นักออกแบบที่เข้าใจและมีส่วนร่วมในการตลาดจะเป็นการส่งต่อแนวคิดของผลิตภัณฑ์อย่างไร้รอยต่อ
3. Hacker (engineer) - นักเทคโนโลยี
โลกหมุนเปลี่ยนไปตามความเร็วของเทคโนโลยี ทั้ง software และ hardware เป็นส่วนสำคัญในการหมุนโลกให้วิวัฒน์อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ยุค ถ่านหิน เครื่องจักรกล และ internet รวมถึงในอนาคตที่จะมีทั้ง Artificial Intelligence (AI), Robotics , และ Internet of Things (IOT) รวมถึง เทคโนโลยี อวกาศที่นำมาใช้กับมนุษย์โลก และผู้ที่ขาดไม่ได้ในการสร้างฝันผ่านผลิตภัณฑ์คือนักเทคโนโลยี
จึงไม่น่าแปลกใจสำหรับที่เมื่อเรามองกวาดตาไปรอบ ๆ จะพบว่า หลาย ๆ บริษัท จะมีทีมของนักเทคโนโลยีที่เก่งกาจ ที่เหมือนสะพานสร้างฝันให้เป็นจริงได้ และหลายๆ บริษัท นักเทคโนโลยีก็เป็น CEO เสียเอง
4. Hound (Researcher) - นักวิจัย
เมื่อทรัพสินทางปัญญา และ ข้อมูล มีค่าดังทองคำ การทำธุรกิจด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีพื้นฐานจากงานวิจัย สามารถสร้างความเฉพาะตัวและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้
ในโลกที่เต็มไปด้วยความโหยหาความสำเร็จและการแข่งขันที่มีม้าแข่งหน้าใหม่และหน้าเก่ามาวิ่งบนลู่วิ่งเดียวกัน ม้าที่มี secret source และพลังวิเศษเท่านั้น ที่จะยืนหยัดได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า การวิจัยก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะในการสร้างความแตกต่าง แต่การเริ่มต้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยทีมงานวิจัยเป็นหลัก กลับทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นขึ้นหิ้งและออกสู่ตลาดไม่ได้ นี่จึงเป็นหนทางที่มหาวิทยาลัยในประเทศชั้นนำ ที่อุดมไปด้วย นักวิทยาศาสตร์ และ นักวิจัย ได้ปรับท่าทีและนโยบายที่พัฒนาทั้งวิจัย การตลาดและการทำธุรกิจควบคู่กันไป
การทำงานแบบ Cross-functional team คือการเติบโตและประสบความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและคาดการณ์ได้ยาก
แม้ว่า การบรรยายลักษณะ หรือ archetype ที่กล่าวมาแล้ว จะเป็นลักษณะของคนที่จะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของ founder และ co-founder ก็ตาม แต่การทำงานในสถานการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบัน โดยเฉพาะ การทำนวัตกรรม ต้องการความคิดและความสามารถที่หลากหลาย
การทำงานยุคใหม่และอนาคต ต้องการการทำงานที่เป็น cross-functional team หรือ การทำงานที่แต่ละคนทำงานข้ามสาย นอกจากนี้ การมีองค์ความรู้ข้ามสาย ก็มีความสำคัญเช่นกันเพื่อเพิ่มความต่อเนื่องและ optimize การพัฒนาผลิตภัณฑ์
หลักการทำงาน แบบ cross-functional team ระยะแรก ๆ มาจากการพัฒนาการทำงานแบบ scrum หรือ agile โดยที่ทุก ๆ คนในทีม จะเข้ามา นำเสนอและแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความหลากหลายของมุมมอง และ ทดลองทางแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
จะเห็นได้ว่า ลักษณะการทำงาน องค์ประกอบของทีมในการทำงานยุคใหม่ มีความแตกต่างจากการทำงานในยุคเก่าพอสมควร และการปรับตัวนี้ มันก็เป็นไปเพื่อการต่อสู้แข่งขันและความเร็วของการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้ นั่นเอง