Ex-Cham - Mission 1 : The beginning and the mission

Added on by Surattanprawate.

ผมเคยดูหนังการ์ตูนเรื่อง One piece คิดถึงโจรสลัดหมวกฟางกับผองเพื่อนที่ต้องลงเรือลำเดียวกัน ออกผจญภัยไปยังท้องทะเลกว้าง มันสนุกและตื่นเต้นจนอดคิดไม่ได้ว่า หากในชีวิตจริงจะมีเรือสักลำสำหรับตัวเอง ให้บรรดาเหล่าผู้กล้าหาญที่มีพลังวิเศษมาลงเรือผจญภัยร่วมกัน คงมีประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้และสนุกไม่น้อย

และนั่นก็ทำให้เข้าร่วมโปรแกรม Ex-Cham เป็นโปรแกรม Executive leadership ที่มีระดับ C-level มารวมกันเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่และเรียนรู้ร่วมกัน

จะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ก็ไม่รู้นะ แต่ผมมองเข็มกลัดที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้เข้าร่วมโปรแกรมนี้เป็นรูปกระโดงเรือ ใช่สิ คิดว่าต้องใช่แน่ ๆ ปกติผมเดาอะไร ไม่ค่อยผิดหรอกนะ หรือหากไม่ใช่ ก็อาจจะใกล้เคียง มันอาจเป็นเกลียวคลื่นที่พวกเรากำลังต้องฝ่าฟันก็เป็นได้และจากการสังเกตในแว้บแรก ผมก็เห็นผู้เข้าร่วมโครงการคนอื่นมีท่าไม้ตายส่วนตัวประจำเหมือนโจรสลัดกันทั้งนั้น

Ex-Cham Pin

เรือโจรสลัดแห่ง One Piece

เอาหละ จากนี้ไป ผมจะเรียกโปรแกรมนี้ว่าการผจญภัยก็แล้วกัน เพื่อให้มีอรรถรสหน่อย และ 13 คนที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ ก็คิดว่า น่าจะชอบผจญภัยเหมือนกัน

ได้คุยกับน้อง ๆ ก่อนเข้า introduction สู่การผจญภัยครั้งนี้ มีหลายคนก็รู้จักกันมาบ้าง แต่เมื่อเข้าร่วมบทนำ อจ.อ้วน ที่ปรึกษาโปรแกรมบอกว่า ต่อไปนี้ให้เรียกทุกคนว่า “พี่” เออแปลกดี ปกติเรียกตัวเองว่า อาจารย์ เรียกคนอื่นว่าน้อง แต่ อจ.อ้วนบอกว่า มันทำให้ทุกคนเสมอภาคกัน

Mission: จุดหมายและการค้นพบ

ใน introduction ของ program ได้มีการกำหนด mission ต่าง ๆ เพื่อผู้เข้าร่วมได้เข้าร่วมพร้อมกัน และมีการ dinner พูดคุย เมื่อจบ mission นั้น ๆ

และ mission แรก ของวันนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ อจ อ้วนเอง ไม่สิ ต้องเรียก พี่อ้วน ที่เล่าประสบการณ์การบริหารจัดการองค์กรนวัตกรรมอย่าง STEP ตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่มีตึกเป็นของตัวเอง จนสร้างเป็น The Northern Science Park อันโด่งดัง

เอาว่า สรุป key สำคัญที่คิดว่า trigger ไปใช้งานได้ สัก 5 keys ละกัน

  1. Passion is a key คิดว่า การก่อกำเนิด เกิดจากการมี passion อันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเรียนอะไรมา เฉพาะทางอะไร background อย่างไหน หากมี passsion มันจะเหมือน fuel ในการผลักยานให้ขับเคลื่อนไปได้

  2. Dream work is Team work การหาทีมก่อตั้งที่ลงเรือลำเดียวกัน สำคัญมาก คนที่เริ่มต้นในการทำสิ่งที่ใหญ่ที่สุด คือคนที่ต้อง โน้มน้าวให้เห็นความฝันร่วมกันได้ และ founder STEP ได้ทำสิ่งนั้น

  3. If you need to go to the mountain, you need to build stepping stone การจะขึ้นไปยังภูเขาได้ ต้องก้าวและก่อสร้างด้วยหินทีละก้อนแล้วเดินไป คือ ทางข้างหน้ามัน uncertainty นะ แต่การก้าวทีละก้าว จะทำให้เห็น small win

  4. CEO is a DNA of organization หัวหน้าเป็นยังไง ทีมก็เป็นยังงั้นหนะแหละ ดังนั้น organization culture ที่ยิ่งใหญ่ CEO สำคัญ

  5. Agility - ready to change คือ เปลี่ยนตลอดเวลา ความล้มเหลวคือขนมหวาน กินแล้ว burn มันไปซะ ไม่อ้วนหรอก

Ok ตอนเย็นเราไปทานอาหารกัน

หัวค่ำร้านอาหาร เล เล ฟอง หน้าบ้านเราเลย มื้อนี้ ก็ทำการ แนะนำตัว มีฉายา ที่ให้แต่ละท่านเลือกมาตั้งแต่อยู่ใน class อืม บางคน ฉายาก็เอามาจากลักษณะตัวตน บางท่านก็จากสิ่งที่นึกออกตอนนั้น บางท่าน ไม่ว่างตั้งก็กลายเป็น ฉายา Unknown ฉายา ดีนะ มันบ่งบอก 2 แบบ คือ 1. คุณมองตัวเองอย่างไร 2. คนอื่นมองตัวคุณอย่างไร แล้วแต่ว่า ฉายานั้น คุณเอาจากที่คุณมองตัวเอง หรือ คนอื่นมองคุณ ส่วนผมนั้น อาจจะแปลกสักหน่อย เพราะใช้ “แมวดำ” ไม่มีอะไรมากคิดถึง แมวดำ blacky ที่เพิ่งถูกรถชนตายเมื่อวาน

ผู้เข้าร่วมผจญภัย มีตั้งแต่ introvert, extrovert แต่ผมคิดว่า หลาย ๆ คนเป็น ambivert เสียมากกว่า เป็น introvert ที่เข้าสังคม Ok อาจฟังดู weired หน่อย แต่ตัวเองก็เป็น

ในวงสนทนา Around the Table: The Missions, and The Persons

สมัยตั้งแต่อยู่อังกฤษแล้ว การสนทนาด้วยการยืนถือแก้วเบียร์ใน english pub แทบจะเป็น tradition ของการสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองกับผองเพื่อน หรือ อาจารย์ ที่ไม่มีกรอบ ที่นี่ผมก็รู้สึกแบบเดียวกัน

ในบรรดา Mission ที่มีแขกรับเชิญ มีท่านนึงที่ จะมาพูดคุยให้ฟัง คือคุณ Jeep Kline อ้า คุณ Jeep Kline นี่ เคยได้ฟังทาง Podcast ของ Silicon Valley และ ทาง Thai Tech Startup ก็เคยเชิญมา Talk ที่ กทม แต่เราไม่มีโอกาสได้ไปฟังนะ

ประวัติย่นย่อ ของ Jeep Kline

Jeep Kline (จี๊ป ไคลน์) เป็นนักธุรกิจไทยที่มีประสบการณ์หลากหลายด้าน ทั้งเศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี และการลงทุนในธุรกิจร่วมทุน (Venture Capital) เธอเริ่มต้นศึกษาเศรษฐศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียปี 1997 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเลือกเส้นทางอาชีพนี้ หลังจากจบการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เธอทำงานที่ธนาคารโลก (The World Bank) และได้เดินทางไปยังตลาดเกิดใหม่หลายแห่ง เช่น แอฟริกา ยุโรปตะวันออก ลาตินอเมริกา และเอเชีย ทำให้เธอได้รับประสบการณ์ในด้านการจัดการเงินทุนขนาดใหญ่

เมื่อสังเกตเห็นการเติบโตของเทคโนโลยี จี๊ปจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเข้าสู่วงการเทคโนโลยี โดยย้ายไปที่ซิลิคอนแวลลีย์และเข้าศึกษาต่อในระดับ MBA ที่ UC Berkeley หลังจากนั้นเธอเข้าร่วมงานกับบริษัท Intel และมีส่วนร่วมในการเปิดตัวแท็บเล็ตที่ใช้ระบบ Google เป็นหนึ่งในรุ่นแรกๆ ซึ่งได้วางจำหน่ายในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก หลังจากที่ประสบความสำเร็จในวงการเทคโนโลยี เธอได้หันมาทำงานด้านการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี และก่อตั้งกองทุนร่วมลงทุน Translational Partners ในซิลิคอนแวลลีย์ โดยมุ่งเน้นการลงทุนในผู้ประกอบการที่มุ่งหวังที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก ปัจจุบัน จี๊ป ไคลน์ ยังเป็นส่วนหนึ่งของ MrPink VC และเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนธุรกิจ Haas ของ UC Berkeley ซึ่งเธอสอนเกี่ยวกับการลงทุนร่วมทุนและการลงทุนที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม​

แต่เอาจริงๆ คือ สงสัย เราจะไม่ได้เข้าร่วมพบแฮะ เพราะว่า เหมือนวันนั้น ต้องไปประชุมที่ Spain นี่สิ เสียดายสุด

ส่วน Mission อื่น ๆ ที่น่าสนใจและทำให้ตัดสินใจเข้าร่วมคือ การได้มาพบกับพี่เล้งในการใช้ทฤษฎี เต้า เต๋อ จิง ในการบริหารคน เพราะบังเอิญไปฟัง podcast ทีคุยใน the standard มาครับ เลยอยากเรียนรู้ เพราะเชื่อว่า นวัตกรรมสำเร็จ คือการบริหารคน เพราะคนนั้น สร้างนวัตกรรม ไว้คงจะได้เล่าให้ฟัง

วันนี้ เท่านี้ก่อน ไว้วันหลังมาเล่าให้ฟัง เพราะไวน์มื้อนี้ ทำเอารุ่งขึ้นมึนหัวครับ

#Excham #Exchamseason2 #exchamleader #Tobethergamechanger