คุณเคยสละเวลาว่างเพื่อหาเงินเพิ่มหรือไม่? คุณไม่ใช่คนเดียวที่ทำแบบนั้นหลอก เพราะพวกเราถูกหลอกว่าตัวกลางที่มีค่าคือเงิน น่าจะซื้อได้ทุกอย่างรวมทั้งความสุขด้วย แต่การทำเช่นนั้นอาจจะทำให้คุณมีความสุขน้อยลง
งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการให้ความสำคัญกับเงินมากกว่ากับเวลา อาจทำให้เรามีความสุขน้อยลงจริงๆ การศึกษาในมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ซึ่งสำรวจนักศึกษากว่า 1,000 คน พบว่าผู้ที่ให้ความสำคัญกับเวลามากกว่าเงิน รายงานว่ามีความสุขมากขึ้นหนึ่งปีหลังจากสำเร็จการศึกษา เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับเงิน ซึ่งผลลัพธ์นี้ยังคงเป็นจริงแม้จะพิจารณาถึงระดับความสุขก่อนสำเร็จการศึกษาและปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน
แต่นั่นหมายความว่าคุณควรปฏิเสธการขึ้นเงินเดือนครั้งต่อไปหรือไม่? ไม่จำเป็นเสมอไป แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วความมั่งคั่งจะเกี่ยวข้องกับความสุขที่มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญกว่าคือวิธีที่คุณใช้และคิดเกี่ยวกับเงินของคุณ ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาจากสหราชอาณาจักรที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500 คน พบว่าจำนวนเงินในบัญชีเงินฝากมีผลต่อความสุขมากกว่ารายได้เพียงอย่างเดียว ผู้ที่มีเงินออมอย่างน้อย 500 ดอลลาร์รายงานว่ามีความพึงพอใจในชีวิตสูงกว่าผู้ที่มีเงินออมน้อยกว่า แม้ว่าพวกเขายังคงจ่ายหนี้อยู่ก็ตาม
นอกจากนี้ การใช้เงินกับประสบการณ์แทนการซื้อสิ่งของก็สามารถเพิ่มความสุขได้อย่างมีนัยสำคัญ
การสำรวจผู้ขอกู้ยืมเงินมากกว่า 12,000 คน พบว่ากว่า 80% ของคนที่อายุต่ำกว่า 30 ปี มีความสุขมากขึ้นจากการใช้เงินกับประสบการณ์ เช่น การท่องเที่ยวหรือคอนเสิร์ต มากกว่าการซื้อของใช้ เช่น อุปกรณ์ไฮเทคหรือเสื้อผ้า อีกทั้งยังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้เงินเพื่อซื้อเวลา เช่น การใช้บริการที่ช่วยประหยัดเวลา สามารถเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตได้ถึง 10% แม้แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์ต่อปี
การลงทุนเพื่อผู้อื่นยังเป็นวิธีที่ทรงพลังในการเพิ่มความสุขอีกด้วย งานวิจัยกว่าสิบปีแสดงให้เห็นว่าการใช้เงินเพื่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ของขวัญ การบริจาค หรือการช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การทดลองหนึ่งพบว่าผู้คนมีความสุขมากขึ้นเมื่อใช้เงินจำนวนเล็กน้อยเพื่อผู้อื่น แทนที่จะใช้เงินนั้นกับตัวเอง แม้ในเวลาที่พวกเขากำลังพยายามหาเลี้ยงชีพอยู่ก็ตาม
แน่นอนว่าความชอบส่วนตัวก็มีผลเช่นกัน ในการศึกษาหนึ่งพบว่าคนที่ชอบอยู่คนเดียวจะมีความสุขมากขึ้นหลังจากใช้บัตรกำนัลในร้านหนังสือ แทนที่จะเป็นบาร์ ในขณะที่คนที่ชอบเข้าสังคมจะมีความสุขไม่ว่าจะใช้จ่ายที่ไหนก็ตาม นี่เป็นการเน้นย้ำว่าถึงแม้ว่านิสัยการใช้จ่ายบางอย่างจะช่วยเพิ่มความสุขโดยทั่วไป แต่การเลือกใช้เงินของแต่ละคนและบริบทที่เป็นเอกลักษณ์ก็มีความสำคัญ
ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทางการเงินครั้งต่อไป ลองถามตัวเองว่า ค่าใช้จ่ายนี้เพิ่มความสุขให้ฉันจริงๆ หรือไม่?
หากคำตอบคือไม่ อาจถึงเวลาที่ต้องคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เงินที่หามาอย่างยากลำบาก จำไว้ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องเงินมากขึ้น—แต่เป็นการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ