สิ่งมีชีวิต มีการวิวัฒนาการมาตลอด หากใครอ่านหนังสือ The species ของ Sir. Charles Darwin หรือ Selffish Gene ของ Richard Dowkins แล้ว อาจเห็นอะไร ๆ ที่มันค่อย ๆ ปรับตัวไปกับเวลา
สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม อากาศ อวกาศ แสง เสียง พฤติกรรม การดำเนินชีวิต จิตใจ ล้วนเคลื่อนไหว เลื่อนไหลไปตามกาลเวลา และมีการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวตลอดเวลา
ในขณะที่โลกหมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยแรงถาโถมแห่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่อาจลืมนึกไปว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน คือการวิวัฒนาการในเชิงโครงสร้างของร่างกายมนุษย์ด้วย
งานวิจัยใหม่ ๆ ไม่ได้เพียงแค่แสดงว่ามนุษย์ได้มีการวิวัฒนาการไปข้างหน้าเท่านั้น แต่ความเร็วในการวิวัฒนาการยังเพิ่มขึ้นด้วย เช่น การวิจัยที่พบว่าการหดสั้นลงของใบหน้าทารกที่เพิ่งคลอดในปัจจุบัน การมีการเพิ่มขึ้นของ fabella bone เป็นกระดูกที่อยู่หลังกระดูกหัวเข่า และการเกิดขึ้นใหม่ของกระดูกเท้า
Wisdom teeth หรือ ฟันกรามชุดที่ 3 ที่จะขึ้นมาในช่วงวัยรุ่น และเกิดเป็นฟันคุดขึ้น เนื่องจากมนุษย์ในปัจจุบัน มีแนวโน้มในการมีกรามที่เล็กลง เนื่องจากอาหารต่าง ๆ ถูก process หรือ ถูกปรุงให้ ไม่จำเป็นต้องใช้การบดเคี้ยวที่มากนัก ก็เป็นหนึ่งในวิวัฒนาการที่เกิดขึ้น ทำให้ wisdom teech หายไปในคนยุคใหม่
ได้มีการจินตนาการกันว่า หากมีการ evolve ไปเรื่อย ๆ คาดการว่า หน้ามาของมนุษย์จะเป็นอย่างไร อาจมีผิวที่ซึดลง มีกรามที่เล็กลง ขณะที่ตา อาจโตขึ้น และขนลดลงไปเรื่อย ๆ
สิ่งสังเกตที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ median artery ที่เป็นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณแขน โดยคณะวิจัย จาก Flinders University และ University of Adelaide ที่ South Australia ได้ Pubished งานวิจัยลงใน Journal of Anatomy กล่าวว่า ปกติแล้ว median artery ที่เลี้ยงแขนของทารกในครรภ์ จะฝ่อไปเมื่อคลอดออกมา และถูกแทนที่ด้วย radial และ ulna arteries โดยที่มีบางคนเท่านั้นที่จะยังคงมี median artery อยู่ โดยที่คณะวิจัยค้นพบว่า ในทารกที่คลอดในปัจจุบัน มีการพบว่ามี median artery เพิ่มจาก 10% ในยุคก่อน ค.ศ. 1880 มาเป็น 30% ในยุคปัจจุบัน
สิ่งเหล่านี้ อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ที่เราเรียกว่า micro evolution แต่เมื่อนานไป เราก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน